เมื่อแพทย์ออกใบสั่งยา มันเป็นการถูกต้องแล้วที่คุณจะใส่ใจแค่ว่า ต้องกินยากี่เม็ด แล้วกินเมื่อไหร่ มากกว่าที่อยากจะรู้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ยาที่ใช้ในทุกวันนี้ส่วนมากเป็นผลจากการศึกษาวิจัยอย่างหนักในห้องปฏิบัติการ ความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน และบางครั้งก็เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ และทั้งหมดนี้ก่อนที่ยาจะถูกส่งไปทดสอบในห้องปฏิบัติการ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลเสียก่อน
แต่เมื่ออ่านฉลากให้ละเอียดขึ้นอีกนิด ท่ามกลางส่วนผสมทั้งหลายนั้น คุณจะพบตัวเลขที่สำคัญหนึ่งตัวหรือมากกว่าก็แล้วแต่ นั่นคือสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Active Pharmaceutical Ingredients หรือ API) และสารพวกนี้เองที่ทำให้ยาเม็ดสีขาวเล็ก ๆ นี้เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้
การพัฒนา API ใหม่ ๆ นี้ไม่เคยเป็นกระบวนการที่เกิดเป็นกิจวัตร ด้วยความหวังว่าจะประสบความสำเร็จ บางครั้งมันไม่ได้ใช้เวลานับปี แต่อาจกินเวลานับหลายสิบปีไปถึงอนาคต ต้องอาศัยนักวิทยาศาสตร์ผู้ที่ต้องมีทั้งความหลงไหลแบบฝังลึกและมีความรู้สึกมุ่งมั่นกับภารกิจของตน ระหว่างทางมีความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วนตามที่คาด ความดื้อรั้นที่จะเอาชนะจึงเป็นสิ่งจำเป็น พร้อมกันนั้นก็ต้องมีความยืดหยุ่นที่จะยอมรับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ที่อาจเกิดจากสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นความล้มเหลว
เบื้องหลังบรรดานักวิจัยของเราในภารกิจนี้ เพื่อค้นหาวิธีการรักษาใหม่ ๆ เราได้ร่วมกันในฐานะบริษัท ที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่เพื่อพวกเขาจะได้ค้นคว้าและพัฒนา API ใหม่ ๆ เทคโนโลยีที่ทันสมัยล่าสุดและเครื่องไม้เครื่องมือระดับโลกนั้นมีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ประโยชน์จากการวิทยาการใหม่ ๆ
การแบ่งปันความเชี่ยวชาญจากพนักงานรุ่นพี่ที่มากด้วยประสบการณ์ให้กับเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง ก็เป็นวัฒนธรรมการทำงานส่วนหนึ่งที่สำคัญ และมีบทบาทอย่างยิ่งในการกระชับความสัมพันธ์ของชุมชนให้เข้มแข็ง และยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าเราจะยังคงรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์เราไว้ได้
เมื่อผลิตเสร็จ ยาที่ผลิตได้ซึ่งมีปริมาณ API ตามที่ควบคุม ก็จะถูกส่งผ่านเครื่องบรรจุอัตโนมัติและกระบวนการทดสอบ ก่อนที่จะเข้าสู่ห่วงโซ่การจำหน่ายในที่สุด หลังจากกระบวนการที่ยาวนานที่เหลือก็เพียงแค่จะส่งให้ถึงมือคุณในที่สุด
ป้ายบนขวดยาไม่เคยใหญ่พอจะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดของขั้นตอนการพัฒนายา บนป้ายก็อาจจะบอกแค่ส่วนผสมของ API เท่านั้นเอง แต่คุณย่อมทราบดีว่า มันมีขั้นตอนอะไรมากกว่าที่ตามองเห็น